วันอังคารที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2554

เรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ กับคำถามที่ต้องถามก่อนใช้ชีวิตคู่

     คำว่ารักแท้แพ้ระยะทาง...ดูจะเชยไปแล้วสำหรับคนสมัยนี้ เพราะยังมีอีกมากมายหลายปัญหาที่เป็นอุปสรรคสำหรับคู่รักสมัยใหม่ โดยเฉพาะเรื่อง "เงิน ๆ ทอง ๆ " ยิ่งเมื่อดูจากสถิติการอย่าร้างของคู่รักสมัยใหม่ด้วยแล้ว ระบุว่า 90% เลิกรากันเพราะปัญหาเรื่อง "เงิน ๆ ทอง ๆ "
     ดังนั้นสาว ๆ คนไหนที่กำลังตัดสินใจจะเซย์เยส หรือเซย์โนดี เมื่อชายคนรักขอแต่งงาน ควรไตร่ตรองถึงปัญหานี้ก่อนเป็นอันดับแรกนะครับ ที่สำคัญอย่ามัวเกรงใจที่จะถามไถ่ถึงการวางแผนเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ของคนรัก ถ้าจะให้ดีลองตั้งคำถามเกี่ยวกับการเงินของทั้งคู่ ว่าจะมีแนวทางเป็นไปเช่นไร ? และช่วยกันตอนคำถามให้เคลียร์ก่อนตัดสินใจใช้ชีวิตคู่ ซึ่งหากตอบคำถามร่วมกันได้ทั้งหมดแล้ว เชื่อแน่ว่าปัญหาเงิน ๆ ทอง ๆ ในครอบครัวจะไม่มาพรากความรักของคุณได้แน่
     จดทะเบียนสมรสกันดีไหม ? หนุ่มสาวสมัยใหม่ไม่ค่อยจะแคร์เรื่องนี้กันเท่าไหร่นัก เพราะเมื่อจดทะเบียนสมรสนั่นหมายความว่าทรัพย์สินของทั้งคุ่ที่หามาได้ก็ต้องถูกนำมารวมกันเรียกว่า สินสมรส หากมีปัญหาอยู่กันแล้วไปไม่รอดมีอันต้องหย่าร้าง เงินส่วนนี้จะถูกนำมาหารสองแม้ว่าคุณจะหามาได้มากกว่าก็ตาม สิ่งเหล่านี้ทำให้หนุ่มสาวสมัยใหม่ โดยเฉพาะสาว ๆ รู้สึกว่าเธอขาดความคล่องตัวในหน้าที่การงาน ดังนั้น สาวบางคนพอใจที่จะขอเป็นโสดโดยนิตินัยดีกว่า แต่หากมองถึงสิทธิ์ที่ควรได้ในฐานะ "ภรรยา" ตามกฏหมาย การจดทะเบียนสมรสก็อำนวยสิทธิ์ให้หลายประการ โดยเฉพาะเมื่อมีลูกด้วยกันแล้ว ควรอย่างยิ่งที่จะจูงมือกันไปจดทะเบียนสมรส เพื่อรักษาสิทธิประโยชน์ให้แก่ลูกหลานคุณ...
     แล้วใครล่ะที่จะเป็นคนจัดการเรื่องเงิน ? เป็นคำถามแรก ๆ ของคู่รักที่กำลังจะตัดสินใจแต่งงาน และยังเป็นคำถามที่ทั้งคู่ต้องร่วมกันตอบ เพราะหากร่วมหอลงโรงกันแล้ว รายได้และทรัพย์สินหลังจากแต่งงานจะตกเป็นของกองกลางโดยอัตโนมัติ ดังนั้น การจัดการดูแลเรื่องรายได้ รายจ่าย และหนี้สิน จึงต้องได้รับการจัดการและร่วมกันปรึกษาของคนทั้งคู่ เพื่อไม่ให้ขาด เกิน หรือเป็นหนี้จนต้องเดือดร้อนพ่อแม่ ญาติ พี่น้อง...
     แล้วฉันต้องไปทำงานด้วยหรือ? ผู้หญิงหลายคนตัดสินใจลาออกจากงานเพื่อมาดูแลบ้าน  สามี และเตรียมตัวมีลูก โดยยึดแต่รายได้ของสามีมาจุนเจือครอบครัว จนลืมนึกถึงชีวิตส่วนตัว ทำให้กิจวัตรหลายอย่าง เช่น การช้อปปิ้ง จิบกาแฟกับเพื่อน ๆ เป็นแค่เรื่องวันวาน เนื่องจากไม่มีรายได้เพียงพอสำหรับหาความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ ใส่ตัว
     ดังนั้นอย่าลืมว่าการหยุดทำหงานคือการไม่มีรายได้ ถึงจะมีเงินเข้ามาจากรายได้ของสามี ให้เก็บออมเพื่อใช้จ่ายส่วนตัวบ้าง แต่ก็คงต้องเก็บอีกนาน แต่หากเลือกไม่ได้ที่จะต้องลาออกจากงาน ก็ควรทำประกันสังคม หรือประกันชีวิตไว้ เพราะผู้หญิงส่วนใหญ่อายุยืนกว่าผู้ชาย
     รายได้ต้องการครึ่งไหม? รีบตกลงกันก่อนจะต้องมาทะเลาะกันว่า "ใครจะจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟเดือนนี้" วิธีง่าย ๆ ในการบริหารค่าใช้จ่ายในบ้าน คือ การเปิดบัญชีรวม โดยหักจากเปอร์เซ็นต์รายได้ของคุณแต่ละคนเท่า ๆ กัน ซึ่งดูจะยุติธรรมมากที่สุดแล้ว แต่สาว ๆ คนไหนที่บริหารเสน่ห์เก่ง ๆ หน่อย จะทำให้สามีแชร์เงินมาไว้กองกลางมากกว่าคุณก็ทำได้ แต่ที่สำคัญ อย่าลืมแยกบัญชีส่วนตัว เพื่อคุณจะได้มีเงินเก็บและมีเงินใช้ส่วนตัวด้วย
     ต้องช่วยสะสางหนี้ของคนรักด้วยไหม? หากสามีของคุณดันมีหนี้ก้อนโตก่อนมาขอคุณแต่งงาน อันนี้ก็ต้องรีบสะสางกันก่อนจะเซย์เยส เพราะตามหลักจริยธรรมแล้วคุณก็ต้องเข้ามาร่วมปลดหนี้กับเขาด้วย ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดคือ ทั้งคู่ควรปลดเปลื้องหนี้ของแต่ละคนให้หมดก่อนที่จะมาร่วมสร้างหนี้ด้วยกันใหม่ !!!
     คุยกันก่อนดีไหมว่าอนาคตการเงินของทั้งคู่จะเป็นอย่างไร? ส่วนมากผู้ชายที่ใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายจะไม่ค่อยคิดวางแผนการเงินเท่าไหร่ ดังนั้น ใครไม่ได้มีสามีเป็นักธุรกิจ ควรคุยกันเรื่องอนาคตการเงินสักหน่อย แต่หากไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร คู่รักสามารถปรึกษา และวางแผนครอบครัวกับผู้เชี่ยวชาญก่อน ดีกว่าปล่อยชีวิตให้แขวนอยู่บนเส้นด้าย และต้องหาเช้ากินค่ำกันยันแก่
     เมื่อร่วมกันตอบคำถามเหล่านี้ได้แล้ว ทีนี้ก็อยู่ที่ว่าเราจะ...เซย์เยสหรือเซย์โน...ในการใช้ชีวิตร่วมกันค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น